จังหวัดลำพูน เชิญชม LAMPHUN STYLE PAVILION พร้อมเจรจาธุรกิจการค้า ในงาน STYLE Bangkok 2025 วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

จังหวัดลำพูนได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งผลิตผ้าทอที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะผ้าไหมและผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาต่อยอด แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่ง และสินค้าอื่น อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีคุณภาพและศักยภาพสูง แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับสากลเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสินค้าผ้าทอ (ผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ) สินค้าสร้างสรรค์ สินค้าแฟชั่นของจังหวัดลำพูน จังหวัดลำพูนโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน จึงได้ดำเนินกิจกรรมการประชาสัมพันธ์และขยายช่องทางการตลาดผ้าและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสร้างสรรค์จังหวัดลำพูนสู่ตลาดสากล ภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์และขยายช่องทางการตลาดผ้าและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสร้างสรรค์จังหวัดลำพูนสู่ตลาดสากล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

“LAMPHUN STYLE” มุ่งเน้นการทดลองตลาดเพื่อสำรวจความต้องการของผู้บริโภค พร้อมผลักดัน 20 ผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการสินค้าผ้าทอ เสื้อผ้าดีไซน์จากผ้าฝ้าย และผ้าไหมคุณภาพ งานแฮนด์เมด และของตกแต่งบ้าน ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ เข้าสู่ตลาดระดับสากลผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติ STYLE Bangkok 2025 นับเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างประสบการณ์ด้านการตลาด พัฒนาศักยภาพผู้่ประกอบการในการสร้างสรรค์สินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมทั้งผลักดันและขยายตลาดสินค้าผ้าทอ สินค้าสร้างสรรค์ และสินค้าแฟชั่น ของจังหวัดลำพูน ให้มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัด ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และส่งเสริมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนเวทีโลก จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ขอเชิญผู้สนใจและนักธุรกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ เข้าชมและร่วมเจรจาธุรกิจ ณ “LAMPHUN STYLE” PAVILION ฮอลล์ 3 ในงาน STYLE Bangkok 2025 ระหว่างวันที่ 2-4 เมษายน 2568 เวลา 10.00-18.00 น. และสำหรับวันจำหน่ายปลีกในวันที่ 5-6 เมษายน 2568 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์