Header Ads Widget

Header ADS

แพลททินัม ฟรุ๊ต ลดต้นทุน ลดเวลา แก้ปัญหาแรงงานในสวนทุเรียน ลำไย ด้วยการใช้ “โดรน”

 แพลททินัม ฟรุ๊ต ลดต้นทุน ลดเวลา แก้ปัญหาแรงงานในสวนทุเรียน ลำไย ด้วยการใช้ “โดรน”

         การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อยกระดับภาคการเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรอุตสาหกรรม แต่อาจยังไกลตัวเกษตรกรทั่วไปด้วยข้อจำกัดเรื่องเงินทุนที่ไม่มั่นใจว่าลงทุนไปแล้วคุ้มค่าหรือไม่ นี่จึงเป็นที่มาความตั้งใจของบริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) ผู้ส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยมที่ต้องการให้เกษตรกรไทยมองเห็นประโยชน์ที่สูงกว่าเดิมในการนำเทคโนโลยีมาทลายข้อจำกัด โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ดูแลผลผลิตต่อเนื่อง ด้วยการเลือกใช้ “โดรน” ซึ่งเห็นผลสำเร็จในสวนทุเรียนและกำลังต่อยอดสู่สวนลำไย 

โดรนเพื่อการเกษตรที่ใช้ในการทดลอง

        นายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) ย้อนถึงที่มาในเรื่องนี้ว่า บริษัทฯ เข้าไปให้คำแนะนำเรื่องการพัฒนาผลผลิตแก่ชาวสวนทุเรียนและสวนลำไยมาตลอด โดยออกแบบโปรแกรมและเทคนิคการดูแลสวน ทั้งการพัฒนาดิน การให้น้ำ สูตรปุ๋ยและสารบำรุงที่เหมาะสม เพื่อการผลิตสินค้าให้ตรงกับรสนิยมของตลาดปลายทาง “แต่ละปีก็พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่สามารถทำตามโปรแกรมที่ออกได้เพราะอุปสรรคสองข้อคือ ขาดแคลนแรงงานที่จะช่วยพ่นน้ำและให้สารบำรุง กับอีกเรื่องคือ สภาพพื้นที่ยากต่อการดูแลทั่วถึง” ซีอีโอของแพลททินัม ฟรุ๊ต ขยายความว่า ในช่วงที่ทุเรียนกำลังเป็นที่นิยม ยิ่งเป็นช่วงที่แรงงานหายากถึงขั้นแย่งกัน ส่งผลต่อต้นทุนและความผันผวนในระยะยาว ส่วนเรื่องสภาพพื้นที่ ยกตัวอย่างการทำสวนทุเรียนภาคใต้ ต้นทุเรียนมักจะสูงใหญ่ บางสวนปลูกบริเวณพื้นที่ลาดชัน ทั้งสองแบบมีข้อจำกัดในการให้สารบำรุง “อาศัยการเดินเท้าของชาวสวน หรือแม้จะใช้รถก็เข้าไม่ถึงทุกจุด ยิ่งมาเจอเรื่องขาดแคลนแรงงาน การดูแลก็ไม่ทั่วถึง”

ณธกฤษ เอี่ยมสกุล (ขวาสุด) และทีม R&D ออกแบบเส้นทางบินโดรนพ่นสารบำรุง 

       ทีม R&D ของบริษัทฯ เสนอแนวคิดในการใช้โดรนพ่นสารบำรุงพืช ซึ่งได้ผลดีจากการพ่นพืชไร่พวกข้าว จากนั้นติดต่อพันธมิตรของบริษัทที่มีโดรนให้บริการสำหรับพืชสวน จึงนำมาทดลองกับสวนทุเรียนในภาคใต้ โดยการพ่นสารบำรุงตามโปรแกรมที่ออกแบบ พบว่าได้ผลดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องการเดินเท้า หรือสวนที่ต้นทุเรียนสูงใหญ่ที่ไม่สามารถใช้คนพ่นสารขึ้นไปถึงเรือนยอดได้ แต่โดรนสามารถคลุมได้ทั่ว “เมื่อนำมาเทียบกันแล้วคุ้มค่ากว่า ถ้าใช้โดรนในการพ่น 100 ไร่ ใช้เวลา 1 วัน ถ้าใช้แรงงาน 100 ไร่ ใช้ 20 คน แต่ใช้เวลา 3 วัน ค่าใช้จ่ายเท่ากัน แต่เวลาลดลง เพราะฉะนั้นจึงมองว่าโดรนเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ด้านเวลา ด้านต้นทุน และประสิทธิภาพในการพ่น เพราะถ้าให้อาหารเสริมและปุ๋ยไม่ทันรอบ ผลผลิตก็ไม่ได้มีคุณภาพตามที่ตลาดปลายทางต้องการ” นายณธกฤษ กล่าวนำร่องสวนทุเรียนใต้ ต่อยอดสวนลำไยจันทบุรี

       สวนทุเรียนจังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่นำร่องในการทดลองใช้โดรน สวนแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ สภาพพื้นที่ยากแก่การเดินเท้าเข้าไปดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน การใช้โดรนในสวนนี้ ทีมงานออกแบบโปรแกรมฉีดพ่นทั้งแบบ 3 มิติ (3D Program) ซึ่งการบินฉีดพ่นจะแม่นยำ ฉีดพ่นความสูงตามความสูงของต้นทุเรียนแต่ละต้น ละอองที่ฉีดพ่นทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้เทคนิคลมอัดตีใบในกรณีฉีดพ่นใต้ใบ 

การทดลองใช้โดรนกับสวนทุเรียนภาคใต้

       การฉีดฝอยแบบละเอียดตามโปรแกรมพบว่ามีการกระจายตัวของสารได้ดีกว่าเมื่อเทียบเท่ากับการพ่นฉีดจี้แบบเดิม แต่ใช้ปริมาณสารที่น้อยลง ประเด็นนี้มีส่วนสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนนอกจากย่นระยะเวลา ในการฉีดสารป้องกันราก็ทั่วถึงมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าปลายยอดทุเรียนบนต้นที่สูงมากๆ มีความเสียหายลดลง แมลงศัตรูพืชน้อยลงผลสำเร็จจากสวนทุเรียนใต้ นำมาปรับใช้กับสวนลำไยจันทบุรี ซึ่งมีลักษณะปัญหาคล้ายกัน ทั้งสภาพและขนาดพื้นที่ รวมถึงการขาดแคลนแรงงาน 

       นายณธกฤษ ให้เหตุผลว่าที่บริษัทเลือกทดลองสวนลำไยที่จันทบุรีก่อนเพราะเป็นสวนแปลงใหญ่ขนาด 100 ไร่ พื้นที่ขนาดนี้ใช้โดรนเพียงวันเดียว จากนั้นจึงค่อยปรับรายละเอียดให้เหมาะกับสวนรูปแบบอื่น เช่น  สวนลำไยภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นสวนขนาดเล็กของเกษตรกรรายย่อย ก่อนที่สนับสนุนเรื่องโดรนต้องรวบรวมพื้นที่สวนในละแวกใกล้เคียงให้ได้รวมกันไม่น้อยกว่า 100 ไร่ เพื่อความคุ้มค่าในการทดลอง “เราต้องศึกษาพื้นที่ให้ดีก่อนจะนำโดรนเข้าไป เพราะสวนลำไยภาคเหนือนิยมปลูกชิดกัน ถ้าใช้โปรแกรมการพ่นแบบ 3 มิติด้านข้างกับด้านบน โดรนอาจจะวิ่งผ่านช่องระหว่างต้นลำไยไม่ได้ ฉะนั้นด้านข้างก็จะพ่นไม่ถึง”

ต้นทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

       สำหรับข้อกังวลเรื่องต้นทุนการใช้โดรน ซีอีโอของแพลททินัม ฟรุ๊ต ให้ข้อคิดเห็นว่า แนวโน้มในอนาคตราคาของโดรนจะถูกลง ซึ่งสวนทางกับค่าแรงงานที่จะสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนของโดรนเมื่อเทียบกับค่าแรงงานก็น่าจะใกล้เคียงกัน ทว่าในระยะยาว เทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์เกษตรกรที่เน้นผลผลิตแบบพุ่งเป้าได้ดีกว่า “ตอนนี้เราแจ้งผ่านเกษตรกรในเครือข่ายของเราแล้วว่า ถ้าเกษตรกรที่สนใจทดลองใช้โดรน สามารถติดต่อทีม R&D ของแพลททินัม ฟรุ๊ต ทีมงานพร้อมลงพื้นที่ให้คำปรึกษาพร้อมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญเรื่องโดรน”นอกจากเทคโนโลยี แพลททินัม ฟรุ๊ต ยังให้คำแนะนำเรื่องการปรับสภาพดิน การบำรุงดอก ต้น ใบ ที่เหมาะสมกับสวนผลไม้ เรื่องการปลูกลำไยภาคเหนือ มีการทำโครงการ “ลำพูนโมเดล”  นำร่องกับกลุ่มชาวสวนลำไย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยทีม R&D เข้าไปส่งเสริมทั้งความรู้ (Knowledge) และทักษะประสบการณ์ (Knowhow) เพื่อให้ชาวสวนลำพูนสามารถพัฒนาลำไยให้ได้ผลผลิตระดับพรีเมียม ตั้งแต่ขั้นตอนการดูแลบำรุงดิน จัดหาน้ำ ดูแลสภาพต้น การให้สารบำรุง-ป้องกัน ในระยะเวลาและปริมาณที่เหมาะสม 

      “ที่ผ่านมา โครงการได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี มีชาวสวนลำไยเข้าร่วมโครงการจำนวน 150 ไร่ เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ตอนแรกที่ 100 ไร่ ตอนนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆ ในภาคเหนือ” นายณธกฤษ กล่าวปิดท้าย

       บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท Top 5 ของไทยในด้านการส่งออกผลไม้สดและสินค้าเกษตร โดยเฉพาะ 4-Best exotic Fruits of Thailand ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด มะพร้าว มีตลาดส่งออกกระจายทั้งในเอเชียและยุโรป มีปริมาณการส่งออกเฉลี่ยกว่า 18,000 ตันต่อปี สร้างมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท (ปี 2022) และมี 4-subsidiary companies ที่เชื่อมโยงธุรกิจการส่งออกผลไม้สดและสินค้าการเกษตรแบบครบวงจร ทั้งการ provide สินค้าระดับพรีเมียม บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระบบ Cold Chain ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมลานโหลดสินค้า บริการ shipping ระหว่างประเทศ พร้อมจัดทำเอกสารและพิธีการศุลกากร และบริการลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ให้แก่การธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้าชั้นนำระดับโลก ทุกธุรกิจในเครือดำเนินงานภายใต้มาตรฐานรับรองระดับสากล

Post a Comment

0 Comments

News Update !!!

 แพลททินัม ฟรุ๊ต ลดต้นทุน ลดเวลา แก้ปัญหาแรงงานในสวนทุเรียน ลำไย ด้วยการใช้ “โดรน”