อดีต สส. เชียงราย ฟังธง กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า 30 วัน แก้ปัญหาไม่จบ เปิดศึกวิจารณ์การใช้เงินรณรงค์ควบคุมยาสูบ
"หมอเอก" นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ อดีต ส.ส. เชียงราย และอดีตรองประธานคณะอนุกรรมาธิการสาธารณสุขสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่าปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเกิดจาก "กฎหมายบังคับใช้ไม่ได้" ไม่ใช่เพียงการ "ไม่บังคับใช้กฎหมาย" ตามที่หลายฝ่ายกล่าวอ้าง
นโยบายกวาดล้าง 30 วันอาจไม่แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นายแพทย์เอกภพระบุว่าแม้รัฐบาลจะประกาศกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าภายใน 30 วัน โดยมีการแถลงข่าวจับกุมแทบทุกวัน แต่บุหรี่ไฟฟ้าอาจยังคงแพร่หลายและมีการนำเข้าจากจีนมูลค่าหลายพันล้านบาท คณะกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลกว่าหนึ่งปี พบว่าจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้งบประมาณและทรัพยากรผิดทิศทาง
อดีต ส.ส. เชียงรายตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้รณรงค์ควบคุมยาสูบของไทยใช้ทรัพยากรจำนวนมากไปกับกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และมุ่งเน้นเพียงการ "แบน" มากกว่าการออกมาตรการที่นำไปปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ การทุ่มทรัพยากรไปกับการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า อาจส่งผลให้การควบคุมบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบนำเข้าราคาถูกลดความเข้มข้นลง
แนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกมองข้าม

นายแพทย์เอกภพระบุประเด็นสำคัญที่ถูกละเลยในการควบคุมยาสูบ ได้แก่:
- วิธีการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ 9-10 ล้านคนในปัจจุบัน
- แนวทางป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
- มาตรการรองรับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของตลาด
"การควบคุมยาสูบควรต้องดำเนินการทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงแค่สนใจแต่บุหรี่ไฟฟ้า... การรณรงค์ควบคุมยาสูบที่ใช้เงินปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องรื้อใหม่หรือไม่" หมอเอกกล่าว

โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรบรรจุวาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568
ที่มา https://www.facebook.com/share/p/19vhzexbv3/?mibextid=wwXIfr
0 Comments